รวม mv..วงเล้าโลม


สำหรับเพื่อนๆคนไหน??ที่ชื่นชอบหนุ่มๆวงเล้าโลมเป็นพิเศษ..!!
วันนี้น้องจ๋านำ mv เพลงต่างๆของหนุ่มๆวงเล้าโลมมาฝากกันค่ะ


เริ่มที่ mv เพลง "โจทย์รัก" ที่ร้องได้เพราะกินใจจิงๆ




ตามมาด้วยเพลง ที่แท้รักแค่เธอ..!!!




สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อกหักมาแล้วตัวเองยังต้องมาอยู่ในฐานะ "เพื่อน"
ต้องดู mv นี้เลยค่ะ



สำหรับเพื่อนนๆคนไหนที่อยากจะบอกแฟนเจ้าชู้ของตัวเองต้อง mv เพลงนี้เลยค่ะ




สำหรับคนที่ยอมทำเพื่อ"คนรัก"ได้ทุกอย่างง




สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากมอบความรู้สึกให้ใครเป็นพิเศษกับเพลงสนุกๆเพลงนี้ค่ะ




เพื่อนๆคนไหนน??รักหมดโปรโมชั่นต้องเพลงนี้ค่ะ




เหนื่อยไหม??ที่เราทุ่มเทให้เค๊าทุกอย่างแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ "ไม่รักกัน "




เคยเจอไหม??ที่ต่อหน้าให้ความหวังกันแต่ลับหลังเห็นเราเป็นตัวอะไร??



และสุดท้ายกันที่เพลง " ไม่มีแรงแข่งกับใคร " สำหรับเพื่อนๆที่กำลังจะต้องเดินถอยกลับ
ในเรื่องของความรักเพราะวันนี้ไม่มีแรงแข่งกับใคร..!!




เปลี่ยนเพื่อ???



ไม่มีใครเป็นทุกอย่างได้ดั่งใจของใครอีกคนต้องการ
ไม่ว่าจะพยายามเปลี่ยนแปลงเท่าไร
บทสุดท้ายก็หนีความเป็นจริงไปไม่ได้ว่ามัน ‘ ฝืน ’ ความรู้สึก
และการฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง
คงเป็นอะไรที่บังคับใจกันไม่ได้นาน

เหนื่อยบ้างไหม ?
กับการพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครสักคน
หากลองถามใจตัวเองในวันนี้ และคำตอบที่มีคือ… ‘ เหนื่อย ’
ไม่ต้องแปลกใจกับผลลัพธ์ที่สะท้อนกลับมา
เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาของความรู้สึก
การพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครสักคนที่คุณรัก
และปรารถนาให้ใครคนนั้นมอบความรู้สึกเช่นเดียวกันนั้นตอบแทน
ในระยะเริ่มต้น คุณอาจเต็มใจที่จะกระทำด้วยความยินดี
หากเมื่อเวลาผ่านพ้นไป
อะไรที่ต้องฝืนใจกระทำย่อมนำมาซึ่งความเหนื่อยล้า

คุณจะภูมิใจล่ะหรือ ?
หากใครคนนั้นรักในสิ่งที่คุณพยายามเปลี่ยนแปลงเพื่อเขา
มากกว่าตัวตนอันแท้จริงของคุณ
รับได้หรือเปล่า ?
หากเขาคนนั้นรักภาพลวงตาที่คุณสร้างขึ้นมามากกว่าสิ่งที่เป็นคุณจริงๆ

อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร
เพราะ….ความรักไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน
และอย่าพยายามเปลี่ยนใครให้เป็นไปตามใจคุณต้องการ
หากเลือกแล้วที่จะ ‘ รัก ‘ ต่างฝ่ายต่างต้องปรับเข้าหากัน
ร่วมสร้างความผูกพันไปพร้อมๆ กันอย่างมั่นคง

เหตุผล..??



ชีวิตมักเต็มไปด้วยเหตุผลมากมาย
ซึ่งถูกสร้างไว้รองรับการกระทำร้อยพันที่เกิดขึ้น
บางครั้งเหตุผลมักเดินสวนทางกับความรู้สึก
ยืนอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับความเป็นจริง
เหตุผลของใครคนหนึ่งอาจเป็นสิ่งไร้เหตุผลสำหรับใครอีกคน
ไม่มีมาตรฐานใดสามารถชี้วัดความสมดุลของเหตุผล
ไม่มีตราชั่งใดคำนวณหาน้ำหนักของเหตุผลได้ตรงเที่ยง

จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
หากคุณพยายามอธิบายเหตุผลของความจำเป็นที่มี
ให้ใครสักคนได้รับรู้และรับฟัง
แล้วใครคนนั้นกลับเอ่ยกับคุณว่า ' ไม่มีเหตุผล '
เพราะเหตุผลของคนแต่ละคนมีมาตรวัดที่แตกต่างกัน

จะดีกว่าไหม ?
หากต่างฝ่ายต่างยอมรับและปรับองศาของเหตุผลเข้าหากัน
เพื่อสักวัน...คุณอาจเข้าใจในความเป็นไปของใครอีกคนได้ดีขึ้น

อย่ามัวรอ..วันพรุ่งนี้



เคยไหม ? ที่เฝ้าบอกกับตัวเองถึงวัน ‘ พรุ่งนี้ ‘

พรุ่งนี้ที่ยังมีเวลาอีกทั้งวัน ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนนักกับวันนี้
เหน็ดเหนื่อยเหลือเกินกับภาระที่รุมเร้าเข้ามาทุกวินาที
ขอพักสักเดี๋ยว ขอพักสักครู่ แล้วพรุ่งนี้ค่อยลุยต่อ

คงไม่ผิด หากคุณจะคิดถึงวันพรุ่งนี้
ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย หากคุณทราบเป็นที่แน่นอนแล้วว่า…
‘ พรุ่งนี้ ‘ …ยังคงมีโอกาสสำหรับคุณ
พรุ่งนี้…แสงสีทองของดวงตะวันจะทาทับจับขอบฟ้าทางทิศตะวันออก
พรุ่งนี้…แสงสีส้มจางของตะวันดวงเดิมจะลาลับดับไปทางทิศตะวันตก
เพราะนั่นคือความจริงซึ่งดำเนินไปอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ วัน ไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นความจริงที่ถูกค้นพบมาเนิ่นนานเกินกว่าจะนับย้อนไปในจุดเริ่มต้น

แล้ว ‘ พรุ่งนี้ ’ ของคุณมีอะไรเป็นหลักประกันว่ามันจะยังคงมาถึง
พรุ่งนี้ที่คุณวาดหวังไว้จะดำเนินต่อไป โดยไม่มีอะไรขาดหาย หรือตกหล่น
เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
ไม่มีอะไรเป็นกฎเกณฑ์ตายตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ที่ยังมาไม่ถึง
ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันสำหรับวันพรุ่งนี้ที่คุณวาดฝัน
ไม่มีอะไรเป็นสิ่งรับรองสำหรับวันพรุ่งนี้ที่คุณเฝ้ารอ

อย่ามัวรอกับวันพรุ่งนี้…ที่คุณไม่อาจมั่นใจว่าจะยังมี
อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดลอยไปพร้อมกับคำว่า ‘ พรุ่งนี้ ’ ที่อาจไม่มีมาถึง
ลงมือทำในสิ่งที่คุณตั้งใจเสียตั้งแต่วันนี้คงดีกว่า
ต้องจมอยู่กับความเสียใจที่ไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจ
เพราะ…พรุ่งนี้อาจสายเกินไป…สายเกินกว่าจะย้อนเวลากลับไปในวันวาน

ทำไมหัวใจเอียงซ้าย

เราใส่นาฬิกามือซ้าย

ที่ใส่มือซ้ายเพราะถนัดขวา

ยกมือซ้ายขึ้นมาดูเวลาได้ง่าย

แต่ถึงมีนาฬิกาเราก็ชอบไปสายอยู่ดี

นาฬิกาก็แค่บอกเวลา... ไม่ได้ทำให้เราไปเร็วขึ้น

คิดดูแล้ว... หัวใจก็อยู่ทางซ้ายเหมือนกัน

บางทีเราก็คิดนะ... ว่าอวัยวะในร่างกายที่มี 2 ชิ้น

จะอยู่ซ้ายและขวาอย่างแขน, ขา, ลูกกะตาทำนองนั้ น...

แล้วที่มีชิ้นเดียว... ก็แสดงความโดดของมัน

อย่างจมูก, สะดือก็อยู่ตรงกลาง... ประมาณนั้น

แล้วทำไม... หัวใจถึงเอียงซ้ายล่ะ?

บางทีเราก็คิดว่า... ที่เป็นงั้นก็เพราะ

ใครบางคนอยากเตือนให้เรารู้ว่า ...

หัวใจเราไม่หนักแน่นพอจะอยู่ตรงกลาง

แล้วก็ไม่มีมากพอจะแบ่งเป็นสองด้วยเหมือนกัน


เรื่องเล่าของวงกลม


นานมาแล้ว ...

มีวงกลมอยู่วงหนึ่งเศษเสี้ยวหนึ่งของมันหายไป มันกลิ้งไปกลิ้งไป

ตามหาเศษเสี้ยวที่หายไปนั้นมันเจอผู้คนมากมาย

แต่ไม่มีใครเลยที่จะเติมเต็มมันได้

บางทีก็ใหญ่เกินไปถ้าฝืนก็จะเจ็บทั้งสองฝ่าย

บางทีคิดว่าเข้ากันได้แต่พอจะก้าวไปข้างหน้าถึงได้รู้ว่า 'ไปด้วยกันไม่ได้'

บางทีเศษเสี้ยวมีหนามแหลมคมกว่าจะรู้ตัวว่า 'ไม่ใช่'

ก็ได้ทิ้งบาดแผลและความเจ็บปวดมากมายไว้ให้เจ้าวงกลม

มันยังกลิ้งไปกลิ้งไปจนในที่สุด

ก็ได้พบเศษเสี้ยวของมันแล้ววงกลมก็เต็มวง

ถ้าเรื่องมันจบแฮปปี้ยังงี้ก็ดีเนอะลองมาฟังนิทานอีกเรื่อง

เรื่องเล่าของสามเหลี่ยมยังจำเศษเสี้ยวของวงกลมนั้นได้ไหม?

เสี้ยวรูปสามเหลี่ยมกำลังตามหาวงกลมของมัน

มันกลิ้งไปกลิ้งไปพบคนมากมายแต่ไม่มีใครเลยที่เป็นที่ของมัน

นี่ก็ไม่ใช่นั่นก็ยังไม่ใช่พอเจอคนที่คิดว่าใช่กลับพบว่า

เขามีส่วนเติมเต็มของเขาอยู่แล้ว

สามเหลี่ยมกลิ้งไป กลิ้งไป กลิ้งไป กลิ้งไป จนขอบของมันเริ่มมนลง

ในที่สุดสามเหลี่ยมนั้นกลายเป็นวงกลม

และพบว่าตัวเอง สามารถกลิ้งไปได้ด้วยตัวของมันเอง

โดยไม่ต้องการให้ใครมาเติมเต็ม

คุณค่าของตัวเองหากตัวเองไม่เห็นจะหวังให้ใครมาเห็นเล่าว่าจริงมั้ย


กามเทพกับต้นไม้ ...



ในอดีตกาลนามมาแล้วเค้าว่ากันว่ามนุษย์ทุกคนมีหัวใจด้วยกันจริงๆ

แล้วทั้งหมดสองดวงแต่ยังมีเทวดาน้อยอยู่องค์หนึ่งซึ่งไม่รู้จัก

สิ่งที่เค้าเรียกว่าหัวใจ

ด้วยความที่สงสัยว่าหัวใจนั้นมันเป็นอย่างไร


เทวดาน้อยจึงได้ไปถามนางฟ้าผู้ที่ดูแลทางเข้าออกของประตูสวรรค์…


“ท่านนางฟ้า โปรดบอกข้า หัวใจคืออะไร…?”
“หัวใจ…ก็คือสิ่ง บริสุทธิ์ สวยงาม ที่สุดของมนุษย์ยังไงเล่า”
“แล้วสิ่งที่เรียกมนุษย์อยู่แห่งใดล่ะ…?”
“อยู่เบื้องล่างยังอีกฟากของประตูสวรรค์นี่ยังไงเล่า”
“เปิดประตูให้ข้าไปชมหัวใจของมนุษย์ได้มั้ย นางฟ้า…?”


“มิได้หรอก มันผิดกฎของสวรรค์ เจ้ากลับไปซะเถอะ
แค่เจ้ามาสนทนากับข้าก็ผิดมากเท่าใดแล้วเจ้ารู้ตัวมั้ย
เจ้าเทวดาน้อย”


เทวนาน้อยทำทีว่าหันหลังกลับไป

แต่ด้วยความที่อยากได้หัวใจมาครอบครองไว้เป็นของตนจึงได้นำคันศรธนูมา

แล้วยิงไปที่นางฟ้าผู้รักษาประตูสวรรค์

หวังจะให้นางฟ้านั้นสลบไปในชั่วข้ามคืนนั้นเองเทวดา

น้อยแอบเปิดประตูสวรรค์แล้วบินไปยังโลกมนุษย์


กลางดึกของคืนนี้เป็นคืนที่เงียบสงบ
มนุษย์ทุกคนต่างหลับกันหมดแล้ว
เทวดาน้อยจึงแอบบินเข้าไปในบ้านของมนุษย์ทุกคน
แล้วไปเอาสิ่งที่เรียกว่า


“หัวใจ” ของทุกคนบนโลกมนุษย์มาคนละหนึ่งดวง
แล้วนำลอยขึ้นไปบนสวรรค์
หวังจะขโมยกลับไปเป็นของตน
แต่ระหว่างที่เทวดาน้อยกำลังกลับเข้าไป

ปากทางของประตูสวรรค์ได้มีนางฟ้าและเทวดาแห่งความรักยืนกั้นอยู่


เทวดาน้อยเห็นดังนั้นจึงบินหนี

แต่นางฟ้าองค์หนึ่งได้บินตามเพื่อมาแย่งหัวใจของมนุษย์ทั้งหมดมาไว้

แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อหัวใจทั้งหมดได้เกิดกระจายออกแล้วร่วงโปรยปรายไปยังบนโลกมนุษย์


และได้เกิดการสลับสับเปลี่ยนเจ้าของหัวใจกันในค่ำคืนนั้นเอง…


เทวดาน้อยถูกลงโทษด้วยการเป็นเด็กตลอดกาล

และเปลี่ยนชื่อเป็นกามเทพให้อยู่บนโลกมนุษย์

เพื่อตามหาหัวใจสองดวงของมนุษย์

ที่ไปอยู่กับใครอีกดวงหนึ่งให้มาพบกันตลอดไป


ตอนนี้หัวใจของคุณอีกดวงหนึ่งก็คงอาจจะอยู่กับใครบนโลกใบนี้ก็เป็นได้
อย่ารอให้กามเทพเป็นคนหาหัวใจให้คุณ…
ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องตามหาหัวใจของคุณคืนมา
และเมื่อคุณได้มันคืนมาแล้ว


จงดูแลหัวใจคุณให้ดี อย่าได้ปล่อยให้หัวใจมันจากคุณไปอีก…
เพราะคุณอาจจะไม่มีวันเจอหัวใจอีกดวงที่แท้จริงของคุณตลอดชีวิต
หรือชั่วชีวิตก็เป็นได้ - -